สถิติ
เปิดเมื่อ5/03/2015
อัพเดท7/05/2015
ผู้เข้าชม5734
แสดงหน้า7681
ปฎิทิน
April 2024
Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
    




บทความ

“ยางรองส้นเท้า” แปรรูปยางพาราต่อยอดงานวิจัย สร้างเถ้าแก่หน้าใหม่
  ยางพารา ถือได้ว่า เป็นสินค้าการเกษตร ที่ทำรายได้จำนวนมหาศาลให้กับชาวสวน ที่ผ่านมาการส่งออกยางพาราของไทย จะอยู่ในรูปของยางแผ่นรมควัน ทำให้มีความผันผวนของราคาอยู่ค่อนข้างมาก ในขณะที่ประเทศที่รับซื้อยางพาราจากประเทศไทย แล้วนำไปแปรรูป สามารถทำรายได้ดีกว่า ประเทศผู้ขายวัตถุดิบ อย่างบ้านเราหลายเท่าตัว 
       
       ด้วยเหตุนี้ เอง ที่ผ่านมา ทุกหน่วยงาน จึงได้พยายามเข้าไปส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพาราเพื่อช่วยเหลือ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับยางพารา และหนึ่งในนั้น เป็นผลงานของศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ ของ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) ได้คิดค้น ผลิตภัณฑ์จากยางพารา ออกในรูปของยางรองส้นเท้า ภายใต้แบรนด์ PSU Heel Soother 
 
“ยางรองส้นเท้า” แปรรูปยางพาราต่อยอดงานวิจัย สร้างเถ้าแก่หน้าใหม่ (ชมคลิป)
       โดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง คณะวิศวกรรมศาสตร์ และ คณะแพทย์ศาสตร์ เพื่อหาอุปกรณ์ ที่จะมาช่วยผู้ป่วยที่มีอาการปวดหัวเข่า เจ็บข้อเท้า เจ็บส้นเท้า เอ็นร้อยหวายอักเสบ จากการเล่นออกกำลังกาย หรือทำงาน โดยยางรองส้นเท้า นี้ได้ออกแบบมา เพื่อช่วยลดแรงกระแทก แรงกดทับที่ส้นเท้า ทำให้นุ่มสบายเท้า เหมาะสำหรับผู้ที่เล่นกีฬา ไม่ว่าจะวิ่ง หรือ เดิน เล่นฟุตบอล, เทนนิส, แบดมินตัน หรือผู้ที่ทำงานแบบยืนนานๆ
       
       นายศรัทธา ศรีวรเดชไพศาล และ นายอาทิตย์ สวัสดิรักษา 2 หุ้นส่วน Rubbers Innotech Co.,Ltd เล่าว่า ที่มาของ ยางรองส้นเท้า เป็นนวัตกรรมที่ผลิตโดยนักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คุณลักษณะของอุปกรณ์รองส้นเท้า (PSU-Heel Soother) ผลิตจากยางธรรมชาติ 100% ที่พัฒนาคุณสมบัติได้ใกล้เคียงกับเนื้อเยื่อส้นเท้าของมนุษย์ปกติ โดยออกแบบให้มีลักษณะ Double Layer Waffle Pattern เป็นการช่วยกระจายแรงกด ลดแรงกระแทก และลดความดันในส้นเท้าได้ถึง 59 % อันเป็นสาเหตุของโรคเอ็นส้นเท้าอักเสบ และได้จดสิทธิบัตรไว้แล้ว
 
“ยางรองส้นเท้า” แปรรูปยางพาราต่อยอดงานวิจัย สร้างเถ้าแก่หน้าใหม่ (ชมคลิป)
ด้านหลังออกแบบให้ยืดหยุนรองรับแรงกระแทก
       ทั้งนี้ แผ่นยางพาราธรรมชาติ ยังมีคุณสมบัติ ช่วยให้สัมผัสกับผิวหนังได้โดยตรงปราศจากการระคายเคือง ซึ่งผู้ออกแบบได้ออกแบบให้สามารถใช้กับพื้นรองเท้าโดยไม่มีการเลื่อนหลุด เพื่อสร้างความสะดวกสบายในการใช้งาน ปัจจุบันออกแบบ มาเพื่อใช้กับรองเท้าแบบหุ้มส้น แต่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการทำวิจัย แบบแผ่นที่สามารถใส่ลงไปทั้งแผ่นในรองเท้า เพื่อลดแรงกระแทกทั้งเท้า
       
       ส่วนรูปแบบที่ทำออกมาจำหน่ายในขณะนี้ มี 2 แบบ เป็นแบบที่หุ้มด้วยผ้ากำมะหยี่ สำหรับคนที่ไม่ต้องการจะสัมผัสกับ พื้นยางโดยตรง และแบบไม่หุ้มผ้ากำมะหยี่ มีขนาดให้เลือก 3 ไซด์ S M และ L ราคา คู่ละ 295 บาท (แบบไม่หุ้มผ้ากำมะหยี่) และราคา 345 บาท (แบบหุ้มกำมะหยี่) กลุ่มลูกค้า ในช่วงเริ่มต้น ได้กลุ่มลูกค้า ที่เป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องของอาการปวดส้นเท้า เป็นส่วนใหญ่ ต่อมาค่อยขยายไปยังกลุ่มนักกีฬา และคนทั่วไป ที่ต้องเดิน หรือยืนนาน
 
“ยางรองส้นเท้า” แปรรูปยางพาราต่อยอดงานวิจัย สร้างเถ้าแก่หน้าใหม่ (ชมคลิป)
ยางรองส้นเท้าแบบไม่หุ้มกำมะหยี่
       อย่างไรก็ตาม จากงานวิจัย ยางรองส้นเท้า ส่วนหนึ่ง ต้องการจะเข้าไปทดแทนการนำเข้า ยางรองส้นเท้าที่แพทย์จะต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่ง ส่วนใหญ่จะทำมาจากซิลิโคน ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูงมาก ถึงคู่ละ 600-1,200 บาท และการใช้ยางพารา ซึ่งเป็นยางธรรมชาติ ช่วยลดการใช้ยางสังเคราะห์ไปได้ และที่สำคัญมีความยืดหยุ่น และมีความทดทานกว่า ยางสังเคราะห์ถึง 2 เท่า อายุการใช้งานของยางส้นเท้าอยู่ที่ 2-3 ปี

*** แหล่งที่มา : http://www.manager.co.th